เพราะการเรียนรู้ตลอดชีวิต ช่วยส่งเสริมให้เด็กทุกคน มีความอยากรู้อยากเห็นอยากพัฒนาต่อไป ในขณะเดียวกันพวกเขาสามารถยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์ อย่างเช่นปัจจุบันที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลาดังนั้นจะส่งเสริมพวกเขาให้เข้าใจถึงความสำคัญของการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง
วันนี้ได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญที่จะได้มาแลกเปลี่ยนมุมมอง และเรื่องราวประสบการณ์ต่างๆ เชิญพบกับ คุณครูดาว จารุณี บัวคำ ครูการศึกษาพิเศษ โรงเรียนวัดวิมุตยาราม และคุณพริยาณีย์ นุติภัสสร์ นักจิตวิทยา จาก My Wellbeing Thailand ด้าน Self-care และ Well-being มีประสบการณ์การทำงานเป็นนักจิตวิทยาในโรงเรียน ที่โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ เสริมทัพด้วยอาจารย์โยโกะ เตรูย่า จากสตาร์ฟิชเอ็ดดูเคชั่น หัวข้อในวันนี้เป็นเรื่องที่คนที่เป็นคุณพ่อคุณแม่ หรือนักจัดการศึกษาสามารถมาแลกเปลี่ยนกันได้ วันนี้ Starfish Labz รวมคำตอบมาให้ครบ จะมีอะไรบ้าง อ่านผ่านบทความนี้ไปพร้อมกัน
ทักษะจำเป็น ให้เด็กพร้อมเติบโตไปวันข้างหน้า
ทักษะ hard skills เน้นการอ่านการเขียนการคิด ทักษะ soft skills เกี่ยวกับการเข้าสังคม ให้เด็กได้สื่อสาร ทักษะการปรับตัว ในยุคที่เด็กอยู่กับเครื่องมือสื่อสาร ทั้งการใช้โทรศัพท์ การอยู่ในโลกของออนไลน์ เขาจะอยู่ตัวคนเดียว ผู้ใหญ่จะไม่ค่อยได้รับรู้ ทักษะนี้ผู้ปกครอง ครู ก็ต้องปรับตัวไปพร้อมกับเขา อีกอย่างทักษะการใช้สื่อดิจิทัล ความฉลาดในการใช้ จำเป็นมาก เพราะว่าถูกผิดอย่างไร เขายังไม่รู้ และอีกหนึ่งทักษะสำคัญมาก ทักษะการควบคุมอารมณ์ตนเอง เด็กต้องเจอสถานการณ์ต่างๆ เจอแล้วเด็กเกิดอารมณ์ เขาอาจจะยังไม่เข้าใจ เราก็อยากจะให้เข้าใช้อีคิวและไอคิวเข้ามาด้วย ทักษะการจัดการความเครียด เวลาเด็กต้องเปลี่ยนแปลงปรับตัว ก็จะมีความเครียดขึ้นมา และเด็กที่จัดการความเครียดไม่เป็น ก็จะพึ่งเกม พึ่งยาเสพติด ดังนั้นการจัดการตัวเองให้เป็น คือพื้นฐานเพื่อต่อยอดทักษะอื่น ๆ ต่อไป ซึ่งการที่เด็กจะทำได้นั้นต้องเรียนรู้จากผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิด
ผู้ปกครองและชุมชน ล้วนสำคัญไม่แพ้ครู
ผู้ปกครองและชุมชนเป็นฮีโร่สำคัญของเด็ก เด็กๆ เขาอยู่กับครูแค่ไม่กี่ชั่วโมง เขาใช้ชีวิตส่วนมากอยู่กับผู้ปกครองชุมชน ผู้ปกครองคือหัวใจหลัก ชุมชนเหมือนน้ำหล่อเลี้ยง หากผู้ปกครองมีการต่อยอดพัฒนาทักษะ และเป็นไปตามโรงเรียนสอนจะช่วยส่งเสริมเด็กได้ดีมาก ส่วนชุมชน หากมีกิจกรรมสร้างสรรค์ มีการฝึกอาชีพ มีการรำกระบี่กระบอง เด็กเขาก็สามารถจะไปร่วมกิจกรรมได้ และเขาจะออกถอยจากโลกออนไลน์
สัญญาณที่บ่งบอกว่า เด็กกำลังเครียด
การสังเกตว่าเด็กคนหนึ่งกำลังเครียด สังเกตได้ที่ร่างกาย สังเกตการหายใจของเขา เขาหายใจช้า ๆ กว่าปกติไหม หรือหายใจเร็ว หรือเขากลั้นหายใจ สังเกตที่กล้ามเนื้อของเขามันผ่อนคลายเบาสบาย มีไหล่เกร็งหรือยกไหม หรือสังเกตพฤติกรรมสีหน้าท่าทาง พฤติกรรมถ้าเขามีเปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้สวัสดี วันนี้เขาเจอแล้วหลบหน้า อาจจะมีเรื่องไม่สบายใจ สังเกตจากการสบตา การร่วมมือกิจกรรม การเหม่อก็เป็นตัวบ่งบอก เครียดเพราะเขาเจอเหตุการณ์ที่ไม่ดีมา
กิจกรรมเสริมสร้างพัฒนาการให้ดีขึ้น
เน้นสมรรถนะ เข้ามาเพิ่มให้เด็กมีความผ่อนคลาย วิชาการ 70% ผ่อนคลาย 30% ยิ่งใช้ Makerspace เข้ามาช่วยเกิดประโยชน์มาก และดีกับทุกคนในโรงเรียน กิจกรรมพวกนี้ทำให้ทุกคนจับมือไปด้วยกันได้ ให้เด็กไปคิดวิเคราะห์ ให้เขาเห็นคุณค่าของความคิดของเขา เขาก็จะได้แสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ กิจกรรม Creative Drama การนำศาสตร์ของการแสดงเข้ามามีส่วนร่วมมีบทบาทสมมติให้เด็ก ๆ เป็นตัวละคร เด็กเขาสามารถเลือกตัวละคร เลือกบทบาทในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย การสอนเด็กๆ ที่สอดแทรกกิจกรรม จะทำให้เขาเกิดการเรียนรู้ได้ผลดีมากกว่า Makerspace กับการพัฒนาทักษะของเด็ก แบบฉบับโรงเรียนปลาดาวเราอยากให้การศึกษามันผ่อนคลาย ให้เด็กๆได้มีเวลาให้กับตัวเอง ให้เขาได้โฟกัสสิ่งที่เขาสนใจ เพื่อให้เขาไปตั้งใจ ไปตั้งคำถาม เราเชื่อในศักยภาพของมนุษย์ทุกคน ถ้าเขามีเวลาเป็นของตัวเอง และรู้ว่าตัวเองสนใจเรื่องอะไร
ตัวอย่างการพัฒนาทักษะของเด็ก
กิจกรรม Steam Design Process เช่น นวัตกรรมเครื่องกรองฝุ่น เกิดจากโครงการวิทยาศาสตร์ ช่วยให้ผู้เรียนค้นพบแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ทักษะของการใช้ทักษะ 5 ขั้นตอนสามารถลิงก์ไปยังสมรรถนะ และช่วยให้เขาแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน กิจกรรมที่สร้างสรรค์ ยืดหยุ่น เรียนได้ทุกเรื่องที่ผู้เรียนสนใจ เน้นไปทางหลักสูตรอาชีพ หลักสูตรระยะสั้น ขนมโบราณ หรือมีคาเฟ่ในโรงเรียน เป็นการเสริมการพัฒนาทักษะอาชีพ
ดูแลเด็กหลากหลายไม่ใช่เรื่องยาก
เด็กที่แตกต่างตั้งแต่ครอบครัว ไอคิว ทุกอย่าง นำระบบดูแลช่วยเหลือ คือทุกคนเข้าในระบบทุกคนต้องได้รับการช่วยเหลือ เราจะไม่ทิ้งใครด้านหลัง เริ่มตั้งแต่การคัดกรอง จัดกลุ่ม ช่วยเหลือ โดยครูทุกคนทำเป็นกระบวนการ จะออกมาในรูปแบบเด็กทุกคนอยู่ในอ้อมกอดเรา ที่เราจะไม่ทิ้งการจัดการความเครียด การจัดการอารมณ์ ควรได้รับเติมเข้าไปสำหรับชีวิตประจำวันของผู้ที่ดูแลเด็ก ถ้าเราไม่สามารถบาลานซ์ตัวเองได้ ข้างในยังท่วมท้นด้วย ดังนั้นวิธีคลายออกก็สำคัญมากๆ เช่น การทำ Somatic Exercises เป็นวิธีการที่เราใช้ร่างกายเพื่อช่วยให้เราผ่อนคลายตัวเอง การหายใจ การสัมผัสตัวเอง หรือเรื่องของ Bio Tracking ล้างมือล้างหน้าด้วยน้ำเย็น เข้า sauna อาบน้ำอุ่น ช่วยฟื้นฟูร่างกายอย่างรวดเร็ว อยากให้มองทุกอย่างเป็นธรรมชาติ อย่าไปคาดหวัง เราก็เพิ่งเคยเป็นครู อย่าไปคาดหวังว่าทำไมฉันทำได้ไม่ดี ยิ่งคาดหวังเยอะ ก็จะทำให้เกิดความเครียดสะสม และมันจะไปบั่นทอนจิตวิญญาณ แน่นอนพอมันลดลง นักเรียนเขาจะรู้สึก
แนวทางการพัฒนาทักษะของเด็กมีหลากหลายด้าน ซึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้พวกเขาไปถึงฝั่ง จำเป็นต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งครู ผู้ปกครอง ชุมชน จนก่อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต อย่างการนำสิ่งที่ได้รับจากโรงเรียน เช่น ทักษะอาชีพ ทักษะทางวิชาการต่างๆ และฝึกฝนกับผู้ปกครองที่บ้าน จนคุ้นชิน และส่งต่อให้กับชุมชน ในกระบวนการที่กล่าวไปทั้งหมด การเรียนรู้เขาเกิดขึ้นแล้ว
Comments