การปรับตัวในโลกการทำงานยุคใหม่ คุณพร้อมแค่ไหน - Meet up café

การปรับตัวในโลกการทำงานยุคใหม่ เราพร้อมกันหรือยัง จะไปในทิศทางไหนบ้าง โอกาสนี้เรามาพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ ท่านแรก คุณอุซมา ดารามั่น ศิษย์เก่า Teach For Thailand ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยผู้บริหารกลุ่มโรงเรียนประทีปศาสน์ ท่านที่สอง คุณฐานวีร์ พงศ์พศวัต ศิษย์เก่า Teach For Thailand ปัจจุบันเป็นเจ้าของธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน และอินฟลูเอนเซอร์และแขกรับเชิญสุดพิเศษ อาจารย์โยโกะ เตรูย่า รองประธานมูลนิธิสตาร์ฟิชเอ็ดดูเคชั่นสำหรับการที่จะให้ทุกคนมีทักษะที่ดีขึ้น พร้อมรับมือกับอนาคต จะเป็นไปด้วยท่าทีอย่างไร เรามาแลกเปลี่ยนกันผ่านบทความนี้กันนะคะ

ทักษะแห่งอนาคตเราทุกคนพร้อมมากแค่ไหน?

เรื่องของทักษะแห่งอนาคต เป็นเรื่องที่ใช้ระยะเวลายาวนานต้องคิดตั้งแต่เด็ก เราควรติดอาวุธให้กับเยาวชนไทย รวมถึงบทบาทหน้าที่ของคนในสังคม เราอาจจะไม่ได้ทำงานในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย สุดท้ายเราคือผู้ใหญ่คนหนึ่งที่มีผลกระทบต่อเด็ก ๆ ทุกคนในสังคม ทักษะในการใช้ AI สำคัญมาก เพราะหลายคนบอกว่า AI จะมาแทนมนุษย์ กลับกัน AI ไม่ได้มาแทนมนุษย์ แต่จะมาแทนคนที่ไม่สามารถใช้ AI อีกหนึ่งทักษะคือ การใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น Word, Excel หรือ Canva สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ขาดไม่ได้จริงๆ ทำให้งานที่ต้องใช้ระยะเวลาทำหลายวัน เสร็จได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง และการรู้เท่าทัน AI สามารถประเมินได้ เช่น prompt ที่กรอกใส่ไป เขาให้ข้อมูลกลับมาถูกต้องหรือไม่ พร้อมเรียนรู้ถึงจรรยาบรรณในการใช้ และการรู้จักที่จะล้มเหลว เรียนรู้ที่จะจัดการมันให้ได้ ถ้าไม่ระวังให้ดี ทุกคนก็จะรู้สึกว่ามันแย่ และจะทำให้การเรียนรู้สูญหายไประหว่างทาง

บทบาทของครูกับการเป็นโค้ช 

เด็กจะเลือกใช้วิธีที่สบายที่สุด แฮปปี้ที่สุดเสมอ เพราะฉะนั้นหน้าที่ของพวกเรา ผู้ใหญ่ ครูทั้งหลายคือทำอย่างไรให้เด็กเขาแยกแยะได้ อันไหนใช้ได้ อันไหนใช้ไม่ได้ อันไหนต้องคิดเอง เด็กบางคนชอบใช้เทคโนโลยีถึงขั้นไม่มาโรงเรียน เพราะฉะนั้นทักษะที่จำเป็นคือทักษะการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด หลายคนเลือกใช้เทคโนโลยีมาช่วยทำการบ้าน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เฉลย ถูกหมดเลยทั้งห้อง อันนี้จะเป็นอีกหนึ่งปัญหา 

เราจะเสริมหรือเติมอย่างไร ให้เขารู้จักการใช้เทคโนโลยีที่ถูกต้อง คุณครูเองก็ต้องกลับไปมองว่า จะใช้ในการส่งเสริมกิจกรรมจัดการเรียนรู้ให้กับเด็กๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือรูปแบบการใช้สมรรถนะเทคโนโลยีที่ถูกต้อง

สนับสนุนการเรียนรู้ของครูในรั้วโรงเรียน

ในมุมมองของการบริหารสถานศึกษา เราจะไม่บังคับคุณครูให้เรียนรู้ในสิ่งที่ผู้บริหารอยากให้เขาเรียนรู้ เราให้อิสระเขาในการเลือก เขาอยากเรียนรู้อะไร หรืออาจตั้งโจทย์ให้คุณครูทำงานกับนักเรียน คุณครูเป็นที่ปรึกษา และเด็กๆ คิดวิธีการแก้ปัญหาในโรงเรียน ทุกฝ่ายต้องยื่นมือเข้าหาและรวมพลังกัน ซึ่งระหว่างทางการเรียนรู้ก็จะเกิดขึ้น

องค์กรกับบทบาทซัพพอร์ตการเรียนรู้ของพนักงาน

การสนับสนุนพนักงานให้เรียนรู้ด้วยตนเอง เช่น ออนไลน์คอร์ส องค์กรสามารถจัดงบประมาณ เช่นพนักงาน 1 คน สามารถเบิกได้เท่าไหร่ พื้นฐานของการสนับสนุนพนักงาน คือให้คนในองค์กรได้ระดมความคิด เกิดทักษะใหม่ ได้ไอเดียใหม่ๆ

สมดุลชีวิตการทำงาน และชีวิตส่วนตัว

การมีเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่ว่าจะทำงานอย่างไร สี่ทุ่มต้องเลิก ถ้ายังไม่เสร็จ เราต้องสิ้นสุดทันที บาลานซ์เรื่องสุขภาพ เรื่องความสัมพันธ์ พยายามทำให้มันเกิดขึ้น สำหรับบางคนอาจนำแนวคิด Work Life Integration หลอมรวมการใช้ชีวิตและการทำงานเข้าด้วยกัน เพราะแต่ละคนก็มีมุมมองที่ต่างกัน ซึ่งมีอีกหลากหลายปัจจัย     จะทำให้การสมดุลชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวเกิดขึ้น      

โลกการทำงานยุคใหม่ กับอิสระที่สตาร์ฟิชเอ็ดดูเคชั่นมอบให้ทีมงาน

โลกเปลี่ยนความเชื่อเปลี่ยน การจ้างงานก็เปลี่ยน การพัฒนาคนก็เปลี่ยน หากยังเป็นองค์กรที่มีความแข็งตัวมากในเรื่องของกฎ HR จะทำให้คนเก่งๆอยู่ยาก สำหรับสตาร์ฟิชเอ็ดดูเคชั่น เราให้ทุกคนเห็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน ในหนึ่งปีเขาอยากจะทำงานในส่วนไหน อยากเติมเต็มส่วนไหนของเรา 

ที่นี่เราไม่มีการตอกบัตร การทำงานยืดหยุ่นมากๆ ใน 5 วัน ทีมเราจะไปคุยกันในออฟฟิศ ประมาณ 1-2 วัน เวลาที่เหลือทำงานของตัวเอง และในระหว่างที่เราไม่ได้เจอกัน สามารถติดต่อกันได้ 

ส่วนในออฟฟิศจะไม่มีบรรยากาศจับผิดเลย เพราะเราไม่เชื่อในเรื่องของการจับผิดแล้วให้คุณ เราเชื่อว่า การทำให้ทุกคนมีความนับถือตนเอง เชื่อว่าในสิ่งที่เขาทำมันมีประโยชน์ สิ่งเหล่านี้จะสร้างการพัฒนาโดยที่ไม่เกิดการบังคับ

ในโลกของเรา ยุคปัจจุบัน สุดท้ายไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นสิ่งสำคัญที่สุดคือการออกแบบชีวิตอย่างไร ให้อยู่ได้ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และการเปิดกว้างพร้อมเรียนรู้ ยืดหยุ่นสูง และน้อมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น มีสติกับการใช้ชีวิตทุกลมหายใจ ส่งผลให้ทุกอย่างผ่านไปได้อย่างง่ายดาย